ซาลาห์ยิงไม่ได้8นัดติด “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลล่าสุด ส่งท้ายช่วงปรี-ซีซั่นได้อย่างสวยหรู หลังเปิดรัง แอนฟิลด์ กระซวกโหด แบล็คพูล 7-2 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ก็ทำเอาเสียวไม่น้อย เพราะเกมผ่านไปช่วงครึ่งชั่วโมงแรก มีสกอร์ตามหลัง 0-2 แต่สุดท้ายก็รัวคืนทีเดียว 7 ตุง โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังที่จัดไปครึ่งโหล และนี่คือ 6 ประเด็นที่น่าสนใจจากเกมอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายของช่วงปรี-ซีซั่น ก่อนเริ่มต้นภารกิจป้องกันแชมป์ในฤดูกาล 2020/21 ซึ่งพวกเขามีคิวลงเตะนัดแรกกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด วันเสาร์ที่ 12 กันยายนนี้
– 7 ประตู จาก 7 คน
เป็นเกมที่นักเตะ ลิเวอร์พูล ยิงกันไม่ซ้ำหน้าเลย โดย 7 ประตู มาจากคนทำสกอร์ 7 คน โดยไล่ตั้งแต่ โฌแอล มาติป นาทีที่ 43 (1-2), ซาดิโอ มาเน่ นาทีที่ 52 (2-2), โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ นาทีที่ 54 (3-2), ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ นาทีที่ 69 (4-2), ทาคุมิ มินามิโนะ นาทีที่ 71 (5-2), ดิว็อค โอริกี้ นาทีที่ 85 (6-2) และ เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก นาทีที่ 88 (7-2) แต่… ยังคงไร้ชื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ บนสกอร์บอร์ด
– ซาลาห์ ไร้สกอร์ 8 นัดติด!!!
นอกจากเกมนี้ที่ยิงไม่ได้แล้ว หากมองย้อนกลับไปทุกนัดที่ลงสนาม เท่ากับว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าตัวเก่งชาวอียิปต์ ทำประตูไม่ได้มา 8 นัดติดต่อกันแล้ว ซึ่งก็รวมถึงตลอดทั้ง 3 นัดในช่วงปรี-ซีซั่น โดยเกมสุดท้ายที่ “บังโม” มีสกอร์คือ นัดที่เจ้าตัวกดสองตุงในเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาลก่อน ที่ “หงส์แดง” บุกอัด ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 3-1 เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ซาลาห์ จะคืนฟอร์มเก่ง และทำประตูได้อย่างเป็นกอบเป็นกำอีกครั้ง เมื่อฤดูกาลใหม่เปิดฉากขึ้น
– มาติป คัมแบ็กสวย
เกมนี้ถือเป็นการลงสนามนัดแรกของ โฌแอล มาติป เซนเตอร์แบ็กร่างโย่งชาวแคเมอรูน หลังจากที่พักแข้งยาวมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายน เพราะมีปัญหาบาดเจ็บรุมเร้าที่เท้า ซึ่งถึงแม้สภาพร่างกายยังดูไม่ฟิตเต็มร้อย และได้ลงเล่นแค่ช่วง 45 นาทีแรกเท่านั้น (นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ลงแทนครึ่งหลัง) แต่ก็ถือเป็นการคัมแบ็กที่ดีสำหรับ ปราการหลังวัย 29 ปี เพราะนอกจากได้ลงเคาะสนิมแล้ว เกมนี้เจ้าตัวยังทำได้หนึ่งประตูด้วย จากลูกโขกของถนัดที่ช่วยให้ทีมตีไข่แตก 1-2
– มินามิโนะ ยิ่งเล่นยิ่งแจ่ม
เชื่อเหลือเกินว่า ทาคุมิ มินามิโนะ ตัวรุกชาวญี่ปุ่น ที่ย้ายมาจาก เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ช่วงกลางฤดูกาลที่แล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่สาวก “เดอะ ค็อป” คาดหวังไว้สูงไม่น้อยสำหรับฤดูกาลใหม่ ซึ่งจากที่เห็นในช่วงหลังๆ บอกได้เลยว่า ฟอร์มของเจ้าตัวดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ โดยเฉพาะเรื่องความมั่นใจ, กล้าเล่นกล้าลุย และความเข้าใจเพื่อนร่วมทีม ซึ่งเกมนี้เจ้าตัวก็มี 1 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ โดยลูกยิงของเจ้าตัว ที่เป็นประตูนำ 5-2 นั้น ถือเป็นลูกยิงที่เยือกเย็นและหาจังหวะดีมาก ซึ่งเท่ากับว่าตอนนี้ ดาวเตะเลือดซามูไรวัย 25 ปี ทำประตูได้สองนัดติดแล้ว หลังเป็นคนกดประตูตีเสมอ 1-1 ในเกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ที่เจอกับ อาร์เซน่อล เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน
– ประตูแรกของ เอลเลียตต์ กับ ฟาน เดน เบิร์ก
ถึงแม้ไม่ใช่เกมที่เป็นทางการ แต่อย่างน้อยการที่สองแข้งดาวรุ่งอย่าง ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ และ เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก ต่างทำประตูแรกในสีเสื้อ “หงส์แดง” ได้ ถือเป็นเรื่องดีต่อความมั่นใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักเตะตัวรุกอย่างเจ้าหนู เอลเลียตต์ วัย 17 ปี ที่ฤดูกาลก่อนไร้สกอร์มาตลอด 8 นัดที่ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล
– แต่… ควรเสริมหลัง
ด้วยการที่สองเซนเตอร์แบ็กตัวหลักอย่าง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ โจ โกเมซ ต่างติดภารกิจรับใช้ทีมชาติ ทำให้เกมนี้ ลิเวอร์พูล ต้องใช้แนวรับชุดสำรองลงเล่น ซึ่งมันชัดเจนว่า ยังไม่ดีพอ เพราะการเสียสองประตูให้กับสโมสระดับ ลีก วัน ไม่ใช่เรื่องที่สามารถนิ่งนอนใจได้ โดยเฉพาะจังหวะที่ แบล็คพูล ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ก็มาจากความผิดพลาดง่ายๆ ของ บิลลี่ คูเมติโอ ปราการหลังดาวรุ่งร่างยักษ์ชาวฝรั่งเศส ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ลิเวอร์พูล ก็ควรจะดึงเซนเตอร์แบ็กคุณภาพดีมาเสริมสักราย เพราะยามจำเป็น การจะฝืนใช้งานพวกดาวรุ่งอย่าง เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก, คี-ยาน่า ฮูแฟร์, บิลลี่ คูเมติโอ รวมถึง นาธานเนียล ฟิลลิปส์ บ่อยๆ คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ถึงแม้ ฟาบินโญ่ มิดฟิลด์เลือดแซมบ้า สามารถลงมายืนเป็นเซนเตอร์แบ็กขัดตาทัพได้ก็ตาม
ขอขอบคุณ SIAMSPORT
แนะนำโดย https://ufabetpedia.com/